ทำไมต้องอัปเดตข้อมูลยืนยันตัวตน (KYC)?
เพื่อให้เป็นไปตาม นโยบายการดูแลรักษาความปลอดภัย และ นโยบายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ของบริษัทฯ ตามที่กฎหมายกำหนด ทางบริษัทฯ จึงมีมาตรการสำคัญในการทบทวนและอัปเดตข้อมูลของผู้ใช้บริการ ShopeePay Wallet ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมของผู้ใช้บริการ
ผลกระทบหากไม่อัปเดตข้อมูลยืนยันตัวตน (KYC)
เมื่อผู้ใช้บริการได้รับการแจ้งเตือนให้อัปเดตข้อมูลการยืนยันตัวตน (KYC) จะมีระยะเวลา 60 วัน ในการดำเนินการ หากเกินระยะเวลาดังกล่าวผู้ใช้งานยังไม่มีการอัปเดตข้อมูลการยืนยันตัวตน จะไม่สามารถใช้งานบริการต่างๆ ดังที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ได้ จนกว่าผู้ใช้บริการจะทำการอัปเดตข้อมูลการยืนยันตัวตนสำเร็จ
- ไม่สามารถใช้บริการผ่าน ShopeePay Wallet ได้ เช่น การโอนเงิน ถอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล เป็นต้น
- ไม่สามารถชำระเงินบนแอปฯ Shopee ได้
- ไม่สามารถขอสินเชื่อ SEasycash ได้
- ไม่สามารถชำระสินเชื่อ SpayLater, SEasyCash ด้วยช่องทาง ShopeePay Wallet หรือบัญชีธนาคารที่ผูกไว้กับ ShopeePay ได้
ขั้นตอนการอัปเดตข้อมูลยืนยันตัวตน (KYC)
- กด “อัปเดตเลย” เพื่อเริ่มขั้นตอน
- กรอกรหัส ShopeePay PIN
- กดยอมรับเงื่อนไข และ กดถัดไป
- กดเริ่มการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า
- ดำเนินการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า
- ตรวจสอบข้อมูลการยืนยันตัวตนและกรอกข้อมูลในช่องที่ยังว่างอยู่
- กดยืนยัน
ข้อควรระวังในการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Liveness Check)
- จะต้องไม่อยู่ในที่มืดหรือสว่างมากจนเกินไป
- ห้ามมีสิ่งของปิดบังใบหน้าและดวงตา ยกตัวอย่างเช่น หมวก, หน้ากากอนามัย, แว่นตา หรือ สิ่งอื่นที่ทำให้เห็นใบหน้าและดวงตาไม่ชัดเจน
- ห้ามมีบุคคลอื่นอยู่ในภาพถ่าย
ทำอย่างไรเมื่ออัปเดตข้อมูลยืนยันตัวตน (KYC) ไม่ผ่าน
หากการอัปเดตข้อมูลยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ ให้ตรวจสอบว่าชื่อที่ลงทะเบียนในระบบเป็นชื่อของคุณหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบได้ผ่านแอปพลิเคชัน ShopeePay หรือ Shopee ดังนี้:
ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน ShopeePay:
- เปิดแอปพลิเคชัน ShopeePay
- กดที่ “ฉัน”
- เข้าไปที่ “ข้อมูลส่วนตัว”
- กดที่ “การยืนยันตัวตน” จากนั้นเลือกที่หัวข้อ “ข้อมูลส่วนตัว”
ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน Shopee:
- เข้าไปที่เมนู “ฉัน”
- กดไปที่ “ShopeePay”
- กดที่เมนู “ฉัน”
- กดที่ “ตั้งค่า”
- กดที่ “การยืนยันตัวตน”
- กดที่ “ข้อมูลส่วนตัว”
กรณีชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อผู้ใช้งาน
หากพบว่าชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อของคุณ กรุณานำส่งเอกสารเข้ามาเพื่อให้ทาง ShopeePay ดำเนินการตามขั้นตอนด้านล่าง
รายละเอียดเอกสารที่ต้องเตรียม:
- สำเนาบัตรประชาชน หรือนำบัตรประชาชนตัวจริง วางลงบนกระดาษ A4 สีขาวพร้อมระบุรายละเอียดด้วยปากกา ดังนี้:
- เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ลงชื่อ-นามสกุล
- ระบุข้อความ “ต้องการยืนยันความเป็นเจ้าของเบอร์ลงทะเบียน ShopeePay [ระบุหมายเลขโทรศัพท์]”
- ลงวันที่ ที่นำส่งเอกสาร
- ขีดเส้นทึบปิดข้อมูล “ศาสนา” และ “กรุ๊ปเลือด” (หากมี)
- กรณีมีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใหม่ ให้ทำการแนบ เอกสารเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
- หลักฐานการเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ ที่ใช้ลงทะเบียนบัญชี ShopeePay ที่แสดงรายละเอียดของชื่อและเบอร์โทรศัพท์ในหน้าเดียวกัน จากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ตัวอย่างเช่น บิลรายเดือน หรือ บันทึกภาพหน้าจอแอปพลิเคชันของเครือข่ายมือถือ (True iService, DTAC, My Ais)
- หากใช้งานระบบเติมเงิน สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ลงทะเบียนซิมได้ ดังนี้:
- เบอร์ True กด *153# โทรออก
- เบอร์ Dtac กด *102# โทรออก
- เบอร์ MY BY CAT กด *99# โทรออก
- เบอร์ AIS กด *545# โทรออก ต่อด้วยกด *161# โทรออก
- บันทึกวีดีโอหน้าจอ ตั้งแต่เริ่มกดเบอร์ โทรออก จนถึงช่วงที่ได้รับการยืนยัน (ขนาดของวีดีโอต้องไม่เกิน 5 MB)
คุณสามารถจัดส่งเอกสารโดย คลิกที่นี่ กดถัดไป 1 ครั้ง แล้วเลือกหัวข้อ ยืนยันตัวตน/อัปเดตข้อมูลการยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ และแนบเอกสาร
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตอบกลับทางอีเมลใช้ระยะเวลาดำเนินการภายใน 3-5 วันทำการ หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ ShopeePay ผ่านศูนย์ช่วยเหลือ