การติดตามสถานะการจัดส่งพัสดุเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าตามกำหนด หากพัสดุ Shopee ของคุณมีการจัดส่งล่าช้า หรือสถานะไม่ได้รับการอัปเดต บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนที่คุณควรดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา
ตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อเบื้องต้น
ก่อนอื่น คุณสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งพัสดุของคุณได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Shopee โดยเข้าไปที่เมนู "ฉัน" > "ที่ต้องได้รับ" แล้วเลือกคำสั่งซื้อที่ต้องการ เพื่อดูรายละเอียดสถานะล่าสุด
กรณีที่ 1: ผู้ขายยังไม่จัดส่งสินค้า / ไม่มีหมายเลขติดตาม / ไม่มีสถานะการจัดส่งบนแอปพลิเคชัน
หากคุณพบว่าสถานะคำสั่งซื้อยังคงแสดงว่า "รอการจัดส่ง" หรือ "ผู้ขายยังไม่จัดส่ง" และไม่มีหมายเลขติดตามพัสดุ หรือไม่มีการอัปเดตสถานะใดๆ อาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้:
- ผู้ขายอาจใช้เวลาในการจัดส่งนานกว่าปกติ: โดยเฉพาะในช่วงที่มีโปรโมชันหรือแคมเปญใหญ่ๆ ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก
สิ่งที่ควรทำ:
- ติดต่อผู้ขายโดยตรง: คุณสามารถติดต่อผู้ขายผ่านช่องแชทบนแอป Shopee เพื่อสอบถามสถานะการจัดส่งและขอหมายเลขติดตามพัสดุเพิ่มเติม
- ระยะเวลาการจัดส่ง: ผู้ขายมีระยะเวลาที่กำหนดในการจัดส่งสินค้า หากผู้ขายไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว ระบบจะทำการยกเลิกคำสั่งซื้ออัตโนมัติ และจะดำเนินการคืนเงินให้กับคุณ
กรณีที่ 2: พัสดุจัดส่งล่าช้ากว่าปกติ หรือไม่มีการอัปเดตสถานะ (กรณีขนส่งเข้ารับพัสดุแล้ว)
หากบริษัทขนส่งได้เข้ารับพัสดุจากผู้ขายแล้ว แต่สถานะการจัดส่งไม่มีการอัปเดตเป็นเวลานาน หรือพัสดุมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด อาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้:
- บริษัทขนส่งอาจใช้เวลาในการจัดส่งนานกว่าปกติ: โดยเฉพาะในช่วงที่มีปริมาณพัสดุจำนวนมาก หรือติดวันหยุดยาว
สิ่งที่ควรทำ:
- ติดต่อบริษัทขนส่งโดยตรง: คุณสามารถนำหมายเลขติดตามพัสดุ (Tracking Number) ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์หรือช่องทางการติดต่อของบริษัทขนส่งที่คุณเลือกใช้บริการได้โดยตรง เพื่อสอบถามสถานะล่าสุดและเร่งการจัดส่ง
- รอการติดต่อจากบริษัทขนส่ง: บางครั้งบริษัทขนส่งอาจติดต่อคุณโดยตรงก่อนนำส่งพัสดุถึงที่อยู่ผู้รับ
- หากเกินระยะเวลาจัดส่งที่กำหนด: หากคุณได้ตรวจสอบกับบริษัทขนส่งแล้ว และพัสดุยังไม่ได้รับภายในระยะเวลาจัดส่งที่คาดไว้ กรุณาติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ของ Shopee หรือบริษัทขนส่งอีกครั้งเพื่อเร่งการจัดส่งพัสดุของคุณ
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม
เพื่อให้การแก้ไขปัญหารวดเร็วยิ่งขึ้น ควรเตรียมข้อมูลต่อไปนี้ให้พร้อมเมื่อติดต่อผู้ขาย บริษัทขนส่ง หรือฝ่ายบริการลูกค้า:
- หมายเลขคำสั่งซื้อ (Order ID)
- หมายเลขติดตามพัสดุ (Tracking Number) (ถ้ามี)
- รายละเอียดปัญหาที่พบ (เช่น ผู้ขายยังไม่จัดส่ง, สถานะไม่เคลื่อนไหว, เกินกำหนดส่ง)
บทความที่เกี่ยวข้อง: