SPayLater: ทำความเข้าใจวงเงินหลักและวงเงินชั่วคราว

หากคุณเป็นผู้ใช้งาน SPayLater ของ Shopee และกำลังสงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง "วงเงินหลัก" และ "วงเงินชั่วคราว" บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจหลักการทำงาน การใช้งาน การแสดงผล และการชำระคืนของวงเงินทั้งสองประเภท เพื่อให้คุณสามารถจัดการการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้กังวล

สรุปประเด็นสำคัญ
  • วงเงินหลักคือวงเงินสินเชื่อถาวร ส่วนวงเงินชั่วคราวคือวงเงินเพิ่มเติมที่อนุมัติให้ใช้ได้ในช่วงเวลาจำกัด.
  • SPayLater จะใช้วงเงินหลักก่อนเสมอ และจะใช้วงเงินชั่วคราวโดยอัตโนมัติเมื่อวงเงินหลักถูกใช้จนเต็ม.
  • การชำระคืนยอดสินเชื่อจะถูกนำไปหักลบจากวงเงินชั่วคราวที่ใช้ไปให้ครบก่อน จากนั้นจึงจะนำไปหักจากวงเงินหลัก.
  • คุณอาจเห็น 'เครดิตที่ใช้ได้' ไม่เท่ากับยอดเงินที่ชำระคืน หรือเป็น 0 หากวงเงินชั่วคราวหมดอายุและมียอดค้างชำระอยู่.

วงเงินหลักและวงเงินชั่วคราวคืออะไร?

เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจการใช้จ่ายผ่าน SPayLater ได้อย่างชัดเจน สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักความแตกต่างระหว่างวงเงินสองประเภทนี้:

  • วงเงินหลัก (Main Credit Limit): คือวงเงินสินเชื่อที่คุณได้รับการอนุมัติจากบริษัทฯ ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้ตามปกติ หากมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้งานตลอดระยะเวลาที่มีการใช้งานบัญชี
  • วงเงินชั่วคราว (Temporary Credit Limit): คือวงเงินที่บริษัทฯ พิจารณาและอนุมัติให้เพิ่มเติมจากวงเงินหลักในช่วงระยะเวลาหนึ่งตามที่บริษัทฯ กำหนด เพื่อให้คุณสามารถใช้งาน SPayLater ได้ด้วยวงเงินที่มากขึ้น วงเงินชั่วคราวนี้จะถูกใช้โดยอัตโนมัติ หลังจากที่วงเงินหลักถูกใช้งานจนเต็มวงเงินแล้วเท่านั้น

หลักการใช้งานวงเงิน SPayLater

เมื่อคุณได้รับสิทธิในการใช้งานวงเงินชั่วคราวและยอมรับข้อเสนอ “เครดิตรวม” ของคุณจะเพิ่มขึ้น โดยจะแสดงเป็นวงเงินทั้งหมดที่คุณได้รับอนุมัติ ซึ่งรวมทั้งวงเงินหลักและวงเงินชั่วคราว ส่วน “เครดิตที่ใช้ได้” จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนวงเงินชั่วคราวที่ได้รับเช่นกัน แต่จะแสดงเฉพาะวงเงินรวมที่คุณสามารถใช้งานได้ในขณะนั้น

ระบบจะใช้วงเงินตามลำดับดังนี้:

  • อันดับแรก: วงเงินหลัก จะถูกใช้ก่อนเสมอ
  • อันดับสอง: วงเงินชั่วคราว จะถูกใช้โดยอัตโนมัติหลังจากที่วงเงินหลักถูกใช้งานจนเต็มวงเงินแล้วเท่านั้น

การแสดงผลของวงเงิน: "เครดิตรวม" และ "เครดิตที่ใช้ได้"

การแสดงผลของวงเงินในแอป SPayLater จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมสถานะวงเงินของคุณ:

  • เครดิตรวม (Total Credit): คือยอดรวมของวงเงินทั้งหมดที่คุณได้รับอนุมัติจากบริษัทฯ ซึ่งจะรวมทั้งวงเงินหลักและวงเงินชั่วคราว (หากมี)
  • เครดิตที่ใช้ได้ (Available Credit): คือจำนวนวงเงินที่คุณสามารถใช้งานได้จริงในขณะนั้น โดยจะปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานและการชำระคืน รวมถึงสถานะของวงเงินชั่วคราว

เมื่อวงเงินชั่วคราวหมดอายุ

เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่บริษัทฯ อนุมัติวงเงินชั่วคราวให้กับคุณ สถานะวงเงินจะมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้:

  • “เครดิตรวม” และ “เครดิตที่ใช้ได้” จะลดลง เนื่องจากส่วนที่เป็นวงเงินชั่วคราวหายไป และคุณจะเห็นวงเงินเฉพาะส่วนที่เป็นวงเงินหลักเท่านั้น
  • ในบางกรณี คุณอาจเห็น “เครดิตที่ใช้ได้” เป็น 0 เมื่อวงเงินชั่วคราวหมดอายุ เนื่องจากคุณได้มีการใช้งานวงเงินหลักจนเต็มวงเงิน หรือมีการใช้งานในส่วนที่เป็นวงเงินชั่วคราวไปแล้ว และยังมียอดค้างชำระ

บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการขอเพิ่มระยะเวลา หรือขอเพิ่มวงเงินชั่วคราว โดยหากวงเงินชั่วคราวของคุณหมดอายุ วงเงินชั่วคราวนี้จะไม่ปรากฏและไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งอาจทำให้วงเงินที่แสดงอยู่นั้น แตกต่างจากที่แสดงในบิลที่ชำระไป

หลักการชำระคืนยอด SPayLater

เมื่อคุณทำการชำระบิลค่าสินเชื่อ ยอดชำระที่คุณจ่ายเข้ามาจะถูกนำไปชำระตามลำดับดังนี้:

  • อันดับแรก: ระบบจะนำยอดชำระไปหักลบส่วนที่เป็น วงเงินชั่วคราวที่ใช้งานไปให้ครบก่อน
  • อันดับสอง: หากมียอดเงินเหลือจากการชำระวงเงินชั่วคราว ระบบจึงจะนำยอดเงินนั้นไปชำระส่วนที่เป็น วงเงินหลัก

ดังนั้น หลังจากที่คุณจ่ายบิลค่าสินเชื่อตามยอดเรียกเก็บแล้ว คุณอาจเห็น “เครดิตที่ใช้ได้” มีจำนวนไม่เท่ากับยอดเงินที่คุณได้ชำระไป ซึ่งเป็นไปตามหลักการชำระคืนที่กล่าวมาข้างต้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวงเงิน SPayLater

เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้งานวงเงินหลักและวงเงินชั่วคราวมาให้คุณแล้ว:

  • Q: ฉันสามารถเลือกใช้เฉพาะวงเงินหลักหรือวงเงินชั่วคราวได้หรือไม่?

    A: ไม่ได้ เนื่องจากวงเงินหลักและวงเงินชั่วคราวจะถูกรวมเป็นวงเงินเดียวกัน ซึ่งหากมีการใช้จ่ายผ่าน SPayLater วงเงินหลักจะถูกใช้ก่อน ส่วนวงเงินชั่วคราวจะถูกใช้โดยอัตโนมัติ หลังจากที่วงเงินหลักถูกใช้งานจนเต็มวงเงินแล้วเท่านั้น

  • Q: ฉันสามารถเลือกชำระคืนค่าสินเชื่อเฉพาะวงเงินหลักหรือวงเงินชั่วคราวได้หรือไม่?

    A: ไม่ได้ เนื่องจากยอดชำระที่คุณจ่ายบิลค่าสินเชื่อเข้ามา จะถูกนำไปชำระส่วนที่เป็นวงเงินชั่วคราวที่ใช้งานไปให้ครบก่อน จึงจะถูกนำไปชำระส่วนที่เป็นวงเงินหลัก แนะนำให้ลูกค้าชำระบิลค่าสินเชื่อตามยอดเรียกเก็บในแต่ละรอบบิลตามปกติ

  • Q: วงเงินหลักและวงเงินชั่วคราวมีการเรียกเก็บอย่างไร?

    A: บริษัทฯ จะเรียกเก็บค่าสินเชื่อตามรายการที่มีการใช้จ่ายในรอบบิลนั้นๆ โดยไม่มีการแบ่งแยกระหว่างวงเงินหลักและวงเงินชั่วคราว

  • Q: หลังจากจ่ายบิลแล้ว ยังสามารถใช้วงเงินชั่วคราวต่อได้หรือไม่?

    A: ได้ หากวงเงินชั่วคราวยังไม่หมดอายุและวงเงินที่ใช้ไปน้อยกว่าวงเงินที่ได้รับในขณะนั้น ทั้งนี้ หลังจากที่วงเงินชั่วคราวหมดอายุลง หากคุณได้ทำการชำระบิลแล้ว แต่วงเงินที่ใช้ไปยังมีจำนวนมากกว่าวงเงินในขณะนั้น คุณจะไม่สามารถใช้ SPayLater ในการซื้อสินค้าหรือบริการต่อได้ โดย “เครดิตที่ใช้ได้” จะแสดงเป็น “0” แนะนำให้ลูกค้าชำระบิลค่าสินเชื่อตามยอดเรียกเก็บในแต่ละรอบบิลตามปกติ จนกว่าวงเงินที่ใช้ไปจะน้อยกว่าวงเงินที่ได้รับในขณะนั้น

  • Q: ชำระเงินคืนแล้ว ทำไมไม่ได้รับวงเงินกลับมาเท่ากับที่จ่ายไป?

    A: เมื่อคุณทำการชำระบิลค่าสินเชื่อ ยอดชำระที่คุณจ่ายบิลค่าสินเชื่อเข้ามา จะถูกนำไปชำระส่วนที่เป็นวงเงินชั่วคราวที่ใช้งานไปให้ครบก่อน จึงจะถูกนำไปชำระส่วนที่เป็นวงเงินหลัก ดังนั้นในกรณีที่วงเงินชั่วคราวหมดอายุแล้ว หลังจากที่คุณจ่ายบิลค่าสินเชื่อตามยอดเรียกเก็บแล้ว คุณอาจเห็น “เครดิตที่ใช้ได้” มีจำนวนไม่เท่ากับยอดเงินที่คุณได้ชำระไป หรือแสดงเป็น “0” เนื่องจากวงเงินที่ใช้ไปยังมีจำนวนมากกว่าวงเงินหลักในขณะนั้น

กรณีศึกษา: ทำไมวงเงินชั่วคราวไม่เพิ่มหรือแสดงผลไม่ตรงตามที่คาดการณ์

กรณีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณได้รับการพิจารณาอนุมัติวงเงินชั่วคราวครั้งใหม่ หลังจากที่วงเงินชั่วคราวครั้งก่อนหน้าหมดอายุลง แต่วงเงินที่ใช้ไปยังมีจำนวนมากกว่าวงเงินหลักในขณะนั้น สามารถอธิบายได้เป็น 4 กรณีดังต่อไปนี้:

กรณีที่ 1: จ่ายเงินคืนแล้ว วงเงินที่ได้รับคืนไม่เท่ากับที่จ่ายไป

สถานการณ์:

  • คุณมีวงเงินหลัก 8,000 บาท และได้รับวงเงินชั่วคราวเพิ่ม 1,600 บาท ทำให้ "เครดิตรวม" เป็น 9,600 บาท และ "เครดิตที่ใช้ได้" เป็น 9,600 บาท
  • คุณใช้งานวงเงินหลักจนเต็ม (8,000 บาท) และใช้วงเงินชั่วคราวไปบางส่วน (1,500 บาท) ทำให้มียอดค้างชำระรวม 9,500 บาท
  • เมื่อวงเงินชั่วคราวหมดอายุ "เครดิตรวม" จะกลับไปเป็นวงเงินหลักเดิม (8,000 บาท) และ "เครดิตที่ใช้ได้" จะกลายเป็น 0 เนื่องจากมียอดค้างชำระ 9,500 บาท เกินกว่าวงเงินหลัก 8,000 บาท
  • คุณชำระเงินคืน 2,500 บาท ระบบจะนำไปชำระวงเงินชั่วคราวก่อน (1,500 บาท) และส่วนที่เหลือ (1,000 บาท) จะถูกนำไปชำระวงเงินหลัก

ผลลัพธ์ที่เห็น: หลังจากชำระ 2,500 บาท คุณจะเห็น "เครดิตที่ใช้ได้" เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 บาท (จากวงเงินหลักที่กลับมา) ไม่ใช่ 2,500 บาทที่จ่ายไป เนื่องจากยอดที่เหลือ 1,000 บาทถูกนำไปลดหนี้วงเงินหลัก

กรณีที่ 2: ได้รับวงเงินชั่วคราวใหม่หลังชำระเงิน

สถานการณ์:

  • เริ่มต้นเหมือนกรณีที่ 1: วงเงินหลัก 8,000 บาท, วงเงินชั่วคราว 1,600 บาท, รวม 9,600 บาท
  • ใช้งานวงเงินหลักเต็ม และใช้วงเงินชั่วคราวไป 1,500 บาท (ยอดค้าง 9,500 บาท)
  • วงเงินชั่วคราวหมดอายุ ทำให้ "เครดิตที่ใช้ได้" เป็น 0
  • คุณชำระเงินคืน 2,500 บาท ทำให้ "เครดิตที่ใช้ได้" กลับมา 1,000 บาท (จากวงเงินหลักที่ถูกชำระคืน)
  • ต่อมา คุณได้รับวงเงินชั่วคราวใหม่ 1,600 บาท

ผลลัพธ์ที่เห็น: "เครดิตรวม" จะกลับเป็น 9,600 บาท (8,000 + 1,600) แต่ "เครดิตที่ใช้ได้" จะแสดงเป็น 2,600 บาท (1,000 บาทจากวงเงินหลักที่เหลือ + 1,600 บาทจากวงเงินชั่วคราวใหม่) ซึ่งสะท้อนถึงวงเงินที่สามารถใช้ได้จริงในขณะนั้น

กรณีที่ 3: ได้รับวงเงินชั่วคราวใหม่ แต่วงเงินที่ใช้ได้ยังเป็น 0

สถานการณ์:

  • คุณมีวงเงินหลัก 8,000 บาท และได้รับวงเงินชั่วคราวเพิ่ม 1,600 บาท ทำให้ "เครดิตรวม" เป็น 9,600 บาท และ "เครดิตที่ใช้ได้" เป็น 9,600 บาท
  • คุณใช้งานวงเงินหลักจนเต็ม (8,000 บาท) และใช้วงเงินชั่วคราวไปเต็มวงเงิน (1,600 บาท) ทำให้มียอดค้างชำระรวม 9,600 บาท
  • เมื่อวงเงินชั่วคราวหมดอายุ "เครดิตรวม" จะกลับไปเป็นวงเงินหลักเดิม (8,000 บาท) แต่ "เครดิตที่ใช้ได้" จะยังคงเป็น 0 เนื่องจากมียอดค้างชำระ 9,600 บาท ซึ่งเกินกว่าวงเงินหลัก 8,000 บาท
  • ต่อมา คุณได้รับวงเงินชั่วคราวใหม่ 1,600 บาท

ผลลัพธ์ที่เห็น: แม้จะได้รับวงเงินชั่วคราวใหม่ ทำให้ "เครดิตรวม" เพิ่มขึ้นเป็น 9,600 บาท แต่ "เครดิตที่ใช้ได้" จะยังคงแสดงเป็น 0 บาท เนื่องจากยังมียอดค้างชำระจากวงเงินชั่วคราวเดิมที่ใช้งานไปและยังไม่ได้ชำระคืนจนครบวงเงินหลัก

ข้อแนะนำ: คุณจะต้องชำระเงินคืนเพื่อลดหนี้ค้างชำระ เมื่อชำระเงินคืน 2,500 บาท (ตัวอย่าง) ระบบจะนำไปชำระวงเงินชั่วคราวที่ค้างอยู่ก่อน หากชำระครบแล้ว "เครดิตที่ใช้ได้" จะปรากฏขึ้นตามจำนวนที่ชำระคืนและวงเงินชั่วคราวใหม่ที่ยังไม่หมดอายุ

กรณีที่ 4: ได้รับวงเงินชั่วคราวใหม่ แต่วงเงินไม่เพิ่มเท่าจำนวนที่แจ้ง

สถานการณ์:

  • คุณมีวงเงินหลัก 8,000 บาท และได้รับวงเงินชั่วคราวเพิ่ม 1,600 บาท ทำให้ "เครดิตรวม" เป็น 9,600 บาท และ "เครดิตที่ใช้ได้" เป็น 9,600 บาท
  • คุณใช้งานวงเงินหลักจนเต็ม (8,000 บาท) และใช้วงเงินชั่วคราวไปบางส่วน (1,550 บาท) ทำให้มียอดค้างชำระรวม 9,550 บาท
  • เมื่อวงเงินชั่วคราวหมดอายุ "เครดิตรวม" จะกลับไปเป็นวงเงินหลักเดิม (8,000 บาท) แต่ "เครดิตที่ใช้ได้" จะยังคงเป็น 0 เนื่องจากมียอดค้างชำระ 9,550 บาท เกินกว่าวงเงินหลัก 8,000 บาท
  • ต่อมา คุณได้รับวงเงินชั่วคราวใหม่ 1,600 บาท

ผลลัพธ์ที่เห็น: "เครดิตรวม" จะเพิ่มขึ้นเป็น 9,600 บาท (8,000 + 1,600) แต่ "เครดิตที่ใช้ได้" จะแสดงเป็นเพียง 50 บาท เท่านั้น ไม่ใช่ 1,600 บาทเต็มจำนวน เนื่องจากยังมียอดค้างชำระจากวงเงินชั่วคราวเดิมที่ใช้งานไป 1,550 บาท ซึ่งยังไม่ได้ชำระคืน

ข้อแนะนำ: คุณจะต้องชำระเงินคืนเพื่อลดหนี้ค้างชำระ เมื่อชำระเงินคืน 2,500 บาท (ตัวอย่าง) ระบบจะนำไปชำระวงเงินชั่วคราวที่ค้างอยู่ 1,550 บาทก่อน หากชำระครบแล้ว "เครดิตที่ใช้ได้" จะปรากฏขึ้นตามจำนวนที่ชำระคืนและวงเงินชั่วคราวใหม่ที่ยังไม่หมดอายุ

หากคุณยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงเงิน SPayLater หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า Shopee ได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน

ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า