SEasyCash คืออะไร? คู่มือครบวงจรสำหรับสินเชื่อเงินสด Shopee

SEasyCash คือบริการสินเชื่อเงินสดจาก Shopee ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงวงเงินได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้หลักประกันใดๆ บทความนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ SEasyCash ตั้งแต่คุณสมบัติการสมัคร ขั้นตอนการใช้งาน ไปจนถึงการชำระคืนและคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจและเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ อย่างถ่องแท้

สรุปประเด็นสำคัญ
  • SEasyCash เป็นสินเชื่อเงินสดจาก Shopee ที่อนุมัติเร็ว ไม่ต้องมีหลักประกัน.
  • ผู้สมัครต้องมีบัญชี Shopee, สัญชาติไทย, บัตรประชาชน และอายุ 20 ปีขึ้นไป.
  • เงินกู้จะโอนเข้า ShopeePay Wallet และมีระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 5 หรือ 24 เดือน (ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อ).
  • มีอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันตามประเภทสินเชื่อ (ส่วนบุคคล/นาโน).
  • สามารถชำระคืนได้หลายช่องทาง และไม่มีค่าปรับหากชำระคืนก่อนกำหนด.

SEasyCash คืออะไร?

SEasyCash เป็นบริการสินเชื่อเงินสดที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อลูกค้า Shopee โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถเข้าถึงวงเงินสูงได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยไม่ต้องใช้หลักประกันใดๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อให้กับผู้ใช้งาน Shopee มากยิ่งขึ้น

*ผู้ที่สนใจสามารถสมัคร SEasyCash ได้ตามขั้นตอนที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีสิทธิ์สมัครจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและนโยบายของบริษัทเท่านั้น

หากยังไม่มีตัวเลือก SEasyCash ในหน้า “ฉัน” แนะนำให้รอการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชัน

หากมีตัวเลือก SEasyCash ในหน้า “ฉัน” แล้ว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ดังนี้

คุณสมบัติและเงื่อนไขการสมัคร SEasyCash

  • มีบัญชีผู้ใช้ของ Shopee ที่ลงทะเบียนแล้ว
  • มีสัญชาติไทย และมีบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อลงทะเบียนกับ SEasyCash (1 บัตรประชาชนต่อ 1 บัญชีเท่านั้น)
  • อายุ ตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

คำถามทั่วไปเกี่ยวกับการขอสินเชื่อ SEasyCash

Q: จำนวนขั้นต่ำในการขอสินเชื่อเท่าไร?

A: ขั้นต่ำในการขอสินเชื่อต่อครั้งคือ 500 บาท

Q: ระยะเวลาการกู้ยืม

A: ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระตามนโยบายของบริษัทและประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนี้:

  • สำหรับ SEasyCash (สินเชื่อส่วนบุคคล) สามารถเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 5 เดือน
  • สำหรับ SEasyCash นาโน (สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ) สามารถเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 24 เดือน

Q: เมื่อขอสินเชื่อแล้ว สินเชื่อจะถูกโอนไปที่ไหน?

A: กระเป๋าเงิน ShopeePay Wallet

Q: เงินจะโอนเข้ากระเป๋าเงิน ShopeePay เมื่อไร?

A: ภายใน 24 ชั่วโมง

Q: กระเป๋าเงิน ShopeePay Wallet สามารถเก็บเงินได้มากสุดกี่บาท?

A: 800,000 บาท ดังนั้นจำนวนสินเชื่อที่ลูกค้าขอกับจำนวนเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าเงิน ShopeePay รวมกันจะไม่สามารถเกิน 800,000 บาท หากเกิน ลูกค้าจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้

Q: ฉันสามารถถอนเงินจากกระเป๋าเงิน ShopeePay ได้ผ่านช่องทางไหนได้บ้างและได้กี่บาท?

A: คุณสามารถถอนเงินได้ผ่าน 2 ช่องทางหลัก:

  • ผ่านบัญชีที่ผูกไว้กับ Shopee - สูงสุด 50,000 บาท
  • ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อใช้จ่าย (ShopeePay Giro) - สูงสุด 500,000 บาท

Q: กระบวนการเปิดใช้งาน SEasyCash ใช้เวลานานเท่าไร?

A: ระบบจะใช้เวลาในการอนุมัติวงเงินไม่เกิน 1 วัน

Q: ฉันสามารถเลือกวันที่ตัดรอบบิลและวันที่จ่ายบิล SEasyCash ได้ไหม?

A: ไม่ได้ ระบบจะกำหนดวันที่ตัดบิลทุกๆ วันที่ 25 หรือ 21 ของเดือน และกำหนดวันที่ชำระทุกวันที่ 5 หรือ 1 ของทุกเดือน

Q: หากทำรายการเบิกถอนสินเชื่อและได้รับเงินเข้าบัญชี ShopeePay แล้ว แต่ไม่ได้กดเงินออกมาใช้ จะต้องเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมใดๆ หรือไม่?

A: คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมตามสัดส่วนของจำนวนเงินที่คุณได้ตกลงในการขอสินเชื่อ SEasyCash เมื่อผู้ใช้งานได้รับเงินสินเชื่อเข้าบัญชี ShopeePay เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายถึงคำขอกู้สินเชื่อจะมีสถานะเสร็จสมบูรณ์ และจะต้องชำระค่าบริการต่างๆ ตามเงื่อนไขปกติ ShopeePay Wallet เป็นเพียงช่องทางการรับเงินที่ได้รับการอนุมัติกู้ยืมจากสินเชื่อ SEasyCash หรือเป็นเพียงช่องทางการรับเงินหลังจากที่ผู้ใช้งานกดทำรายการถอนเงินในแอปพลิเคชัน Shopee เท่านั้น

อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของ SEasyCash

Q: ผลิตภัณฑ์นี้มีอัตราดอกเบี้ย ค่าบริการต่างๆ และค่าปรับอะไรบ้าง?

A: สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (“SEasyCash”):

  • อัตราดอกเบี้ย: ไม่เกิน 25% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
  • ค่าอากรแสตมป์: 0.05% ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ*

A: สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (“SEasyCash นาโน”):

  • อัตราดอกเบี้ย: ไม่เกิน 33% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
  • ค่าอากรแสตมป์: 0.05% ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ*

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

⚠️ หมายเหตุ:

  • ค่าอากรแสตมป์จะถูกเรียกเก็บรวมกับยอดชำระเงินคืนงวดแรก
  • ค่าติดตามทวงถามหนี้จะเรียกเก็บต่อเมื่อมียอดหนี้ค้างชำระหรือหนี้ที่ถึงกำหนดชำระสะสมตั้งแต่ 1,000 บาท

Q: ดอกเบี้ยคืออะไร และคิดอย่างไร?

A: ดอกเบี้ย คือ ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน SEasyCash โดยการคิดดอกเบี้ยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ลูกค้าขอเบิกเงินจาก ShopeePay Wallet

  • สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 25% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
  • สำหรับ SEasyCash นาโน ภายใต้สินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 33% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)

Q: Stamp Duty หรือ อากรแสตมป์ คืออะไร?

A: คือค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ ซึ่งคิดในอัตราร้อยละ 0.05 ของยอดวงเงินกู้ยืมที่ลูกค้าได้รับ โดยอากรแสตมป์สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับจะเรียกเก็บเพียงครั้งเดียว

การชำระคืนสินเชื่อ SEasyCash

ฉันสามารถชำระบิลของ SEasyCash ผ่านช่องทางใดได้บ้าง?

คุณสามารถชำระคืน SEasyCash ได้หลากหลายช่องทาง ดังนี้:

  1. ชำระผ่าน ShopeePay Wallet:
    • ชำระผ่านยอดเงินใน ShopeePay Wallet
    • ชำระผ่านบัญชีธนาคารเพื่อใช้จ่าย (ที่ผูกกับ ShopeePay)
  2. ชำระผ่าน mBanking (โมบายแบงก์กิ้ง)
  3. ชำระผ่าน ATM
  4. การตั้งชำระ SEasyCash ผ่านระบบอัตโนมัติ (Auto Repayment)
  5. การชำระผ่านตู้บุญเติม

Q: กระบวนการชำระเงินให้ SEasyCash ใช้เวลานานเท่าใด?

A: โดยปกติจะทันทีหลังจากที่ชำระเงินสำเร็จ หากยังไม่ขึ้นสถานะว่าชำระแล้ว กรุณาตรวจสอบอีกครั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังชำระเงิน หากเกิน 24 ชั่วโมงแล้วการชำระเงินยังไม่สำเร็จ สามารถแจ้งรายละเอียดผ่านแบบฟอร์มฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ของ SEasyCash โดย คลิกที่นี่

Q: กรณีที่ต้องการจะชำระหนี้ทั้งหมดก่อนครบกำหนดชำระ จะมีค่าปรับไหม?

A: ไม่มีค่าปรับสำหรับการชำระหนี้ทั้งหมดก่อนครบกำหนด

Q: เมื่อถึงวันที่ต้องชำระเงินสามารถดูใบแจ้งยอดได้ตามนี้

A: คุณสามารถดูใบแจ้งยอดได้ตามขั้นตอนดังนี้:

  1. เข้าหน้า SEasyCash แล้วคลิกที่ “ประวัติการขอสินเชื่อ”
  2. คุณจะเห็นรอบที่ต้องชำระในบิลรอบปัจจุบันและรอบถัดๆ ไป รวมถึงยอดที่เคยชำระไปแล้วด้วย
  3. กดเข้าไปในบิลแต่ละเดือนเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Q: ฉันจะสามารถดูรายการบิลย้อนหลังได้หรือไม่ผ่านช่องทางใด?

A: ได้ คุณสามารถดูรายการบิลย้อนหลังได้ผ่านเมนู SEasyCash และเลือก “ประวัติการชำระเงินคืน”

ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับการชำระคืน SEasyCash

Q: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันชำระหนี้ SEasyCash ช้ากว่ากำหนด?

A: สำหรับ SEasyCash ภายใต้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ:

  • เมื่อลูกค้าผิดนัดชำระหนี้* จะคิดค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระ 50 บาท/งวดการค้างชำระ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) กรณีค้างชำระหนึ่งงวด
  • 100 บาท/งวดการค้างชำระ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) กรณีค้างชำระมากกว่าหนึ่งงวด

*เรียกเก็บเมื่อลูกค้ามีหนี้ค้างชำระหรือมีหนี้ที่ถึงกำหนดชำระสะสมมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ โดยยอดค้างชำระรวมมากกว่าหนึ่งพันบาท

นอกจากนี้ วงเงิน SEasyCash ของลูกค้าจะถูกระงับชั่วคราวเมื่อค้างชำระเกิน 3 วัน และไม่สามารถขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้จนกว่าลูกค้าจะชำระหนี้คงค้างทั้งหมด

Q: ฉันจะทำอย่างไร เมื่อชำระเงินแล้ว แต่ยังได้รับสายทวงหนี้อยู่?

A: หากคุณได้ชำระยอดค้างชำระทั้งหมดแล้วแต่ยังได้รับสายอยู่ กรุณาติดต่อสอบถามฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ได้ผ่านแบบฟอร์มฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ของ SEasyCash โดย คลิกที่นี่

Q: ฉันจะทำอย่างไรหากเลือกช่องทางการชำระเงินผิด โดยโอนเงินเข้าบัญชีการสั่งซื้อสินค้าตามปกติ?

A: สามารถติดต่อผ่านแบบฟอร์มฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์โดย คลิกที่นี่ พร้อมส่งหลักฐานสลิปโอนเงินเพื่อดำเนินการขอเงินคืนเข้า ShopeePay Wallet หลังจากนั้นสามารถทำการชำระผ่าน ShopeePay Wallet ได้เมื่อได้รับเงินคืน

Q: ฉันต้องการชำระบิล SEasyCash แต่ได้ทำการลบบัญชีไปแล้ว ต้องทำการแก้ไขอย่างไร?

A: สามารถติดต่อสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำการกู้คืนบัญชี Shopee

Q: ฉันจะทำอย่างไรหากไม่สามารถทำรายการชำระเงินคืนสินเชื่อได้ แล้วระบบแจ้งว่าทำรายการเกินจำนวนครั้งที่กำหนดหรือหน้าจอทำรายการเป็นสีเทา?

A: คุณต้องทำการตั้งค่าปรับเพิ่มวงเงินในแอปพลิเคชัน ShopeePay

  1. คลิกที่แท็บ “ฉัน” (Me)
  2. เลือก “ความปลอดภัยของบัญชี”
  3. เลือกตั้งค่าวงเงินจำกัดรายวันให้มากกว่ารายการที่ต้องการชำระด้วย ShopeePay (สูงสุด 699,999 บาท)

Q: ฉันสามารถขอใบวางบิลเป็นสำเนาตัวจริงได้หรือไม่?

A: ได้ คุณสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดได้จากเมนู SEasyCash และไปที่ “การตั้งค่า” เลือก “ใบแจ้งยอดรายการ”